ในยุคที่ผู้คนเต็มไปด้วยความเครียด ความคาดหวัง และข้อมูลอันล้นทะลัก หนังสือเล่มบางชื่อ Good Vibes, Good Life กลับกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่ได้รับความนิยมอย่างเงียบๆ และเติบโตเป็นกระแสในหมู่คนรุ่นใหม่อย่างรวดเร็วเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มที่กำลังแสวงหา “คุณค่าของตัวเอง” ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยเสียงรบกวนจากภายนอก
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Vex King ไลฟ์โค้ชชื่อดังที่เคยมีชีวิตลำบากในวัยเด็ก ก่อนจะเปลี่ยนตัวเองด้วยพลังของ “self-love” และการปรับความคิด หนังสือของเขาไม่ได้หวือหวาในด้านเทคนิคการเขียน ด้วยเนื้อหา 219 หน้าที่กระชับ ตรงเข้า Hook ไม่อ้อมค้อม จับใจในแง่ความจริงใจ เรียบง่าย และชวนให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนมีเพื่อนคนหนึ่งกำลังนั่งพูดกับเราอย่างใจเย็น
หัวใจของหนังสือ: พลังของการรักตัวเอง
หนึ่งในแนวคิดหลักของ Good Vibes, Good Life คือ “Self-love is the key to unlocking your greatness.” หรือ “การรักตัวเองคือกุญแจสู่ศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของคุณ”
Vex King พยายามอธิบายว่า คนจำนวนมากไม่สามารถมีชีวิตที่ดีได้ เพราะพวกเขา “ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองคู่ควร” ตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ การงาน สุขภาพ หรือเป้าหมายส่วนตัว คำว่า “self-worth” หรือ “คุณค่าของตนเอง” จึงถูกกล่าวถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหนังสือเล่มนี้
“You attract what you are, not what you want.” – Vex King
วรรคทองข้างต้น คือแก่นที่สะท้อนความเชื่อเรื่องพลังแห่งการสั่นสะเทือน (vibration) และจิตสำนึก ซึ่งแม้จะไม่ใช่แนวคิดใหม่ แต่วิธีการเล่าของ Vex King กลับทำให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย ผ่านการยกตัวอย่างประสบการณ์ตรงที่เขาเผชิญ
จุดแข็ง: ความเรียบง่ายที่เข้าถึงใจ
สิ่งที่โดดเด่นใน Good Vibes, Good Life คือรูปแบบการเขียนที่ไม่ซับซ้อน บางบทใช้ภาษาสั้นๆ เหมือนโพสต์อินสตาแกรม แต่กลับจี้ตรงประเด็น เช่น
• การแข่งขันกับคนอื่น ส่งเสริมความขมขื่น ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น (ฉบับแปลไทย)
Vex ไม่พยายามจะสอนผู้อ่านให้ “สำเร็จ” แต่ชวนให้กลับมาสำรวจตัวเองอย่างตรงไปตรงมา
คำแนะนำหลายอย่าง เช่น “ให้ตัดคนที่เป็นพลังลบออกไป” หรือ “หัดใช้เวลาคนเดียว” แม้จะฟังดูเป็น cliché แต่ก็ได้รับการเล่าในแง่มุมที่เข้าใจง่ายและเป็นมิตร ไม่เหมือนกับหนังสือ self-help บางเล่มที่ดูสั่งสอนเกินไป
จุดอ่อน: อุดมการณ์ที่อาจ ‘เบาเกินไป’ สำหรับบางคน
แม้ Good Vibes, Good Life จะได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง แต่ก็ไม่วายโดนวิจารณ์จากนักอ่านบางกลุ่มว่า “เบาเกินไป” หรือ “ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์” รองรับแนวคิดต่างๆ เช่น พลังงานจักรวาล การสั่นสะเทือน หรือแรงดึงดูด
ในบางจุด หนังสืออาจดูเหมือนสร้างความคาดหวังผิดๆ ว่า “เพียงแค่เปลี่ยนความคิด ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง” โดยไม่ลงลึกถึงความซับซ้อนของปัจจัยภายนอก เช่น สภาพสังคม เศรษฐกิจ หรือสุขภาพจิตในระดับลึก
แต่หากมองในฐานะ “แรงบันดาลใจเบื้องต้น” หรือ “คัมภีร์เบื้องต้นของการหันมาดูแลตัวเอง” Good Vibes, Good Life ก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างนุ่มนวลและงดงาม
พื้นที่ปลอดภัยสำหรับคนที่อยากเริ่มใหม่
ผมคิดว่า Good Vibes, Good Life ไม่ใช่หนังสือที่จะ “เปลี่ยนชีวิต” อย่างฉับพลัน แต่มันคือพื้นที่ปลอดภัยเล่มหนึ่ง สำหรับคนที่อยากเริ่มดูแลใจตัวเองในวันที่รู้สึกหลงทาง
มันไม่ได้สอนให้คุณเป็นคนสำเร็จ แต่มันชวนให้คุณเป็นคนที่ “เมตตากับตัวเอง” ก่อน แล้วให้ทุกอย่างที่เหลือค่อยๆ ตามมา
หากคุณกำลังเผชิญกับความเหนื่อยล้า ความไม่มั่นใจ หรือการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ผมแนะนำว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยปลอบโยนคุณได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในวันที่คุณต้องการคำว่า “คุณไม่ได้อ่อนแอหรอก แค่คุณเหนื่อยเฉยๆ”
-มุมฉาก-
